วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

50 ข้อคิด มุมมองเพื่อความเข้าใจในชีวิต

1. เมื่อเด็กกำลังเติบโตเป็นวัยรุ่น มีความต้องการเป็นตัวของตัวเองสูง ผู้ใหญ่ที่ไม่เข้าใจและใจแคบมักจะมองว่าเด็กดื้อ

2. คนเราจิตตกได้เป็นครั้งคราว อาจทำอะไรที่ไม่เหมาะสมได้ การรู้ตัวเองและให้อภัยตัวเอง จึงเป็นสิ่งสำคัญ

3. คนอกหักไม่อาจตัดความโศกเศร้าได้ด้วยเหตุผลเพียงอย่างเดียว เวลาเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการเยียวยาความรู้สึกดังกล่าว

4. ให้เคารพแนวคิดของผู้อื่นบ้าง เสมือนหนึ่งเป็นอีกแนวคิดหนึ่งที่ต่างไปจากเราเท่านั้นเอง

5. ตนเองเสียเมื่อไหร่ที่คิดดี คิดชอบเป็นอยู่คนเดียว

6. ทำไปเพราะไม่รู้ ให้อภัยกันได้ รู้แล้วยังทำ คือ ความดื้อ

7. ก่อนที่จะว่ากล่าวถึงนิสัยไม่ดีของลูกนั้น ให้มองตัวพ่อแม่เองก่อนด้วยว่า เรามีส่วนผลักดันให้เขาเป็นเช่นนั้นด้วยหรือเปล่า

8. ความทุกข์ของมนุษย์ 100% เกิดจากการพยายามฝืนความจริงของธรรมชาติ

9. หากต้องอยู่กับคนที่ไม่เกรงใจกันเลย พูดกับเขาให้น้อยลง เล่นกับเขาให้น้อยลง

10. หากอยากได้อะไร ก็ควรเสียอะไรบ้าง

11. ถ้าเราปล่อยให้โลก เร่งตัวเรา ควบคุมตัวเรา จนเราขาดอิสระภาพ เราก็จะทุกข์ ถ้าเราจะเร่งโลก ควบคุมโลกให้โลกนี้เป็นไปตามความต้องการของเรา เราก็ทุกข์เช่นกัน

12. ความฉลาดอาจหลอกคนได้ ความจริงใจต่างหากที่จะชนะใจคน

13. การให้ความสำคัญกับกฎเกณฑ์มากไป ทำให้เราลืมธรรมชาติ ลืมความเป็นจริงได้ง่าย

14. อารมณ์เป็นตัวกำหนดความคิด ความคิดกำหนดพฤติกรรม หากจะเข้าใจพฤติกรรมของคนให้ถูกต้อง จึงต้องอ่านอารมณ์ให้ออก

15. การมองอะไร ว่าดี ว่าเลว ขึ้นกับว่าอารมณ์ของเราขณะนั้นเป็นอย่างไร

16. ทำอะไรก็แล้วแต่ ควรมีหลักการบ้าง แต่ต้องระวังอย่ายึดเป็นกฎเกินไป

17. อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดเป็นคำพื้น ๆ ที่ใช้มาเตือนสติเราได้ดีตลอดกาล

18. การพยายามทำอะไรทุกอย่างให้ได้ การสงสัยอะไรทุกเรื่องเป็นความโง่ได้ก็เพราะว่าเรื่องต่าง ๆ ในโลกนี้มีตั้งหลายเรื่องที่ใช่ว่าเราจะรู้มันได้ง่ายและเรื่องอีกหลายเรื่องก็ไม่จำเป็นที่ต้องตอบให้ได้ด้วย

19. คุณธรรมส่อคุณค่าของมนุษย์มากกว่าความฉลาด

20. อะไรก็ตามแต่แม้ว่ามันจะจริง จะถูกต้อง แต่ถ้าการพูดออกไปนั้น มันไม่มีประโยชน์มีแต่ผลเสีย อย่าพูดดีกว่า

21. การขาดความเกรงใจต่อกัน ทำให้เราทะเลาะกันได้ง่าย การมีความเกรงใจต่อกันที่มากเกินไป ก็ทำให้เราไม่เป็นตัวของตัวเอง

22. ใครที่เขากล้าพูดความจริงกับเราออกมา นั่นก็เพราะเขามีความเชื่อมั่นว่าเราจะยอมรับเขาได้

23. การฝึกวินัยให้กับลูกนั้นแท้ที่จริงแล้วเป็นการฝึกวินัยให้กับพ่อแม่ด้วย

24. หากลูกเป็นคนเฉื่อยชา เราคงต้องช่วยกระตุ้นให้กำลังใจ หากลูกเป็นคนเอาจริงเอาจังเกินไป เราคงต้องช่วยสอนให้ลูกได้ปล่อยวางบ้าง กฎเกณฑ์การเลี้ยงลูกของคนๆ หนึ่ง จึงไม่เหมือนของอีกคนๆหนึ่ง

25. เมื่อคิดจะเสนอความคิดเห็นต่าง ๆ ที่มองว่าดี ต้องมองถึงความเป็นจริง ความเป็นไปได้ด้วยเสมอ

26. แต่ละคนมีศักยภาพของตัวเองอยู่แล้ว เราจึงควรต้องให้เกียรติต่อกันบ้าง

27. เมื่อเป็นคนก้าวร้าวคนอื่นไม่เป็น ก็มักจะถูกคนอื่นรุกรานได้ง่ายเช่นกัน

28. ถ้าเราเชื่อเรื่องกรรม การตายก็ไม่ใช่วิธีการหนีปัญหาได้ตลอดไป เนื่องจากกรรมนั้น ๆ ยังไม่ได้ชดใช้ จนหมดวาระในตัวของมันเอง เกิดชาติหน้า กรรมเก่าก็จะติดตัวต่อไปอยู่ดี

29. การมองปัญหาในแง่มุมต่างกัน ในจุดต่างกันจะทำให้เข้าใจปัญหาได้ต่างกัน
30. เราจะให้อภัยตัวเอง กับผู้อื่นได้นั้น เราต้องเข้าใจในตัวเองและผู้อื่นได้ก่อน

31. การแก้ปัญหาทางบุคลิกภาพต้องอาศัยทั้งความจริงใจและการอดทนเป็นอย่างยิ่ง

32. ความเชื่อมั่นในตนเองเป็นเรื่องที่ดี แต่….ปัจจัยแห่งความสำเร็จนั้นก็หาได้ขึ้นอยู่กับเราคนเดียวไม่

33. เวลาที่พ่อแม่จะสะกิดฝีหนองให้ลูกนั้น พ่อแม่เองก็เจ็บปวดไม่น้อย

34. บางครั้งเราต้องการให้คนอื่นมาเข้าใจเรา มากกว่าที่เราอยากจะเข้าใจตัวเอง นั่นก็เพราะว่า เรายังเป็นมนุษย์ที่ยังมีความอ่อนแออยู่บ้าง

35. เรื่องที่คนเราประทับใจ มักจะลืมเลือนได้ยาก ก็เนื่องจากความประทับใจ ไม่ใช่ความจำนั่นเอง

36. จะมีเราอยู่……………………. เขาก็เป็นอย่างนั้น
ไม่มีเราอยู่….……………….. เขาก็เป็นอย่างนั้น

37. หากเขาคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง จริงๆแล้ว เราเป็นได้แค่เพียงตัวกระตุ้นเท่านั้น

38. ถ้าเราเรียนรู้ธรรมะด้วยเหตุผลเพียงอย่างเดียว เราจะสัมผัส " การรู้ " ได้ยากยิ่ง

39. ความสับสนในชีวิดมันเกิด ควรหาที่ยึดเหนี่ยวให้จิตใจได้พักเสียบ้าง

40. เรื่องของชีวิต มันมีจังหวะที่ต้องรอคอยอยู่บ้าง จะเรียกร้องให้มันได้ดั่งใจเสมอไปได้อย่างไร
ความจริงใจ หากถูกแปลเป็นแง่ลบแล้ว ใครยังอยากจะกล้าจริงใจให้อีก

41. เพราะความอยาก…….มันถึงได้วุ่นวายกันเพียงนี้

42. ไม่ใช่ว่า ห้ามโกรธ แต่ให้รู้ว่าโกรธ ไม่ใช่แสดงความโกรธแต่ให้พูดออกมาว่าโกรธ

43. จิตและอารมณ์เป็นของแท้ ความคิด คือ ตัวปรุง

44. หากเชื่อว่า "การบ่น จะทำให้ลูกนิสัยดีขึ้นก็น่าจะลองดู ในเมื่อความเป็นจริงนั้น " การบ่น " มักจะยิ่งทำให้ลูกแย่ลงมากกว่าเดิมเสียอีก

45. ใครเขาจะเป็นอย่างไรก็ช่าง มันอยู่ที่………เรารู้สึกอย่างไรด้วยต่างหาก

46. หากพ่อแม่คาดหวัง อยากจะให้ลูกเป็นคนดีนั้น พ่อแม่ต้องช่วยให้ลูกเป็นคนดีด้วย ( อย่าเพียงแต่หวัง )

47. พ่อแม่ หากมีความรักลูกมากไปแล้ว ก็ยากที่จะสอนวินัยให้กับลูกได้ดี

48. การเข้าใจคนอื่นได้ เป็นเรื่องที่ดี การเข้าใจตนเองได้ยิ่งเป็นเรื่องที่ดี เรื่องที่แย่ และก่อให้เกิดทุกข์ได้มากก็ คือรู้สึกว่าไม่มีใครเข้าใจเราเลย

49. กังวล เกินกว่าเหตุ… เชื่อมั่น มากเกินไป…
ล้วนเป็นสิ่งที่เราต้องรู้จักตนเองอยู่เสมอ

50. การเร่งแก้ปัญหา โดยรีบคิดให้ตกทันที จะยิ่งสร้างปัญหาทางอารมณ์ได้มากยิ่งขึ้น


พบทะเลสาบแปลกประหลาดที่สุดในโลก มีน้ำเป็นน้ำยาซักฟอก และมีความเป็นด่างอย่างแรง รีบส่งนักวิทยาศาสตร์ไปสำรวจเพื่อค้นหาชีวิตที่อาจจะมีอยู่ได้ และเชื่อว่าอาจจะเป็นพิมพ์เดียวกับของชีวิตต่างโลก

คณะนักวิทยาศาสตร์ของศูนย์การเดินทางในอวกาศมาร์แชลล์ ขององค์การอวกาศสหรัฐฯ จะได้ยกคณะไปยังทะเลสาบอันเดอร์ซี ที่ขั้วโลกใต้ ซึ่งรับน้ำที่ละลายจากแม่น้ำน้ำแข็ง เป็นทะเลสาบที่ผิดแปลกจากที่อื่นอย่างยิ่ง ด้วยเหตุว่าน้ำชั้นบนระดับสูงถึง 70 เมตร ล้วนมีฤทธิ์เป็นด่าง "มันมีความเป็นด่างแรงมาก" ยิ่งกว่านั้นตะกอนในทะเลยังปล่อยก๊าซมีเทนออกมามากยิ่งกว่าสิ่งที่มีชีวิตในน้ำตามธรรมชาติอื่นใดบนโลกนี้

นายริชาร์ด ฮุเวอร์ ผู้เป็นหัวหน้าคณะนักวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า มันนับเป็นกรณีตัวอย่างของสถานที่แปลกประหลาดในสุริยจักรวาล ซึ่งอาจจะได้พบรูปแบบของชีวิตที่สามารถอยู่ได้ในสภาพดินฟ้าอากาศอันทารุณ

สิ่งหนึ่งซึ่งเราได้รู้ในระยะสองสามปีมานี้ คือได้พบสิ่งมีชีวิตพวกจุลชีพอาศัยอยู่ในน้ำแข็งก็มี ในน้ำเดือดก็มี แม้แต่ในเครื่องปฏิกรณ์ปรมาณู ชีวิตแปลกๆ เหล่านี้อาจจะเป็นชีวิตธรรมชาติที่อยู่ตามดินแดนแห่งต่างๆ ในจักรวาล

เขาบอกว่าเราหวังว่าจะพบรูปแบบชีวิตใหม่ๆ ที่ทนกับอุณหภูมิสูงและทนกับความเป็นด่างมาก เราเคยพบแบคทีเรียในอุโมงค์ที่อลาสกามาแล้ว ที่กลับมีชีวิตขึ้นอีกเมื่อน้ำแข็งที่จับอยู่ละลายออก หลังจากที่ติดอยู่มานาน 32,000 ปี ในขณะที่จุลชีพบนโลกยังทนอยู่ได้ ทำไมบนดาวพระเคราะห์ดวงอื่นจึงจะไม่มีบ้าง


วันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

Grenade (fruit)





La grenade (Punica granatum), de la famille des Lythracées est le fruit comestible du grenadier. Elle est probablement originaire d'Iranet réputée avoir des vertus thérapeutiques.
Le grenadier est un arbuste qui aime la chaleur et craint les grands froids. Il s'acclimate bien tout autour du
bassin méditerranéen, dans la même zone climatique que l'olivier.
Originellement, le sirop de grenadine était tiré des grenades. Aujourd'hui, la grenade n'entre plus dans la composition du
sirop de grenadine industriel qui est un mélange de fruits rouges.
Le nom de grenade, aussi appelée pomme-grenade ("pomegranate" en anglais), vient du latin granatus qui signifie « abondant en grains ».
Description
C'est une grosse baie ronde, de la taille d'une grosse orange, à écorce dure et coriace, de couleur rouge ou jaune-beige, qui renferme dans des « loges » délimitées par des cloisons épaisses, de nombreux pépins de couleur rose-saumon à rouge rubis, d'une forme caractéristique en gemme de rubis.
Dans chaque pépin, la graine est enrobée d'une
pulpe gélatineuse de chair rouge transparente, sucrée chez les variétés améliorées, sinon d'un goût plutôt âcre. Seuls les pépins constituent la partie comestible de la grenade soit environ la moitié du fruit.
Avec la maturité, la peau de la grenade s'assombrit, s'amincit et durcit à l'extrême. Son écorce constituant alors une protection efficace pour la pulpe enfermée à l'intérieur de très nombreuses cloisons ténues.

Histoire
Un grenadier
Originaire de la
Perse (Iran), elle est cultivée depuis au moins 5000 ans en Asie occidentale et en Afrique du Nord, elle poussait dans les jardins suspendus de Babylone; elle est représentée sur certains bas-reliefs du temple de Karnak (Égypte), sur des mosaïques byzantines à Qasr el-Libia en Libye, un arbre de vie au-dessus de deux pintades et la grenade représentée sur des sculptures assyriennes.. Les anciens Égyptiens préparaient avec elle un vin léger au goût de framboise.
Les Grecs la considéraient comme le symbole de la fertilité, elle était d'ailleurs dédiée à la déesse de l'amour et des plaisirs Aphrodite et à Héra la déesse du mariage légitime qui fut l'épouse de l'infidèle Zeus, c'est elle qui enverra aux enfers Perséphone pour en avoir prélevé un grain de celle que lui présenta Hadès; ce fut aussi l'un des attributs de Dionysos.Elle fut introduite en Europe dans le courant du VIII eme siècle par les Arabes via l'Espagne où elle fut abondamment cultivée en Andalousie dans la province qui portera son nom, ainsi que la ville d'Elvira, qui sera rebaptisée Grenade* au XI siècle par Zawi ibn Ziri, premier roi de la dynastie berbère-ziris (1012-1090).

Une grenade d'Inde
La grenade était appréciée des nomades car, protégée du dessèchement par sa peau épaisse et coriace, les caravanes pouvaient la transporter sur de longues distances, et son jus désaltérant et nourricier était très apprécié. On retrouve sa trace dans des documents anciens.
Hippocrate recommandait le jus de la grenade contre la fièvre et comme fortifiant contre la maladie.
Les
Romains connaissaient la grenade grâce aux Phéniciens qui l’apportaient de la Phénicie (Liban) à Rome, d’où son nom scientifique de Punica.